1 มกราคม 2563 เป็นวันเริ่มบังคับใช้ภาษีที่ดินอัตราใหม่ ที่เจ้าของที่ดินเปล่า ที่รกร้างต้องขยับขยายไม่น้อยเมื่ออัตราภาษีใหม่เข้ามาเพิ่มรายจ่ายงอกขึ้นมาดื้อๆ
และเมื่อ 16 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง กำหนดจังหวัดที่จะทำการสำรวจรางวัดทางแผนที่เพื่อออกโฉนดที่ดิน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 58 วรรคแรก แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน… ซึ่งผมมองว่า น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับโครงสร้างทางสังคม ที่ส่งผลต่อการขยายตัวของตัวเลข GDP ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด…
และแน่นอนหล่ะว่า… เมื่อโฉนดเพิ่มขึ้น การจัดเก็บภาษีที่ดินก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามกัน… เรื่องแปลกที่น่าสนใจอย่างยิ่งก็คือ คนส่วนใหญ่วิ่งหนีการเสียภาษีและมองหาช่องทางและเทคนิคให้ตัวเองจ่ายภาษีน้อยลงเสมอ… อย่างกรณีภาษีเงินได้ที่หลายคนยอมเอาเงินก้อนใหญ่กว่ายอดจ่ายภาษี ไปซื้อกองทุนที่มีความเสี่ยงแฝงรวมทั้งมูลค่าต่ำลงทันทีเพื่อแลกสิทธิ์ลดหย่อนภาษีให้ตัวเอง
กรณีภาษีที่ดินในห้วงนับจากนี้ก็น่าจะมีแนวโน้มเช่นเดียวกับภาษีเงินได้… เจ้าของที่ดินจำนวนหนึ่ง น่าจะเคลื่อนไหวเพื่อหลบเลี่ยงภาษีที่ดินตามกฏหมายใหม่กันคึกคักแน่นอน… โดยเฉพาะการหลบไปพิงภาคเกษตรกรรมเพื่อใช้อัตราภาษีที่ผ่อนคลายกว่า รักษาแลนด์แบงค์ไม่ให้สร้างภาระจากภาษีอากรมากเกินไป
ผมกับเพื่อนๆ สองสามท่านแลกเปลี่ยนข้อมูลกันถึงแนวโน้มประเด็นนี้โดยนำข้อมูลหลายๆ ประเด็นมาประกอบการพิจารณา… ตั้งแต่นโยบายจากภาครัฐที่มากับคำว่า “ส่งเสริม……” ที่พวกเราเชื่อว่า จะต้องเกิดบนที่ดินซักแปลง โดยใครซักคนที่ได้ประโยชน์… รวมทั้งข้อมูลเอกสารสิทธิ์แบบต่างๆ รวมทั้งแลนด์แบงค์ที่มีรายการนิติกรรมกับสถาบันการเงิน… รวมทั้งแนวโน้มหรือเทรนจากเทคโนโลยีการเกษตร ที่ถือว่าเป็น Sector ที่ใช้ประโยชน์จากที่ดินมากที่สุด
แน่นอนว่า… ข้อมูลวิเคราะห์หยาบๆ ที่ได้ชี้ชัดว่า ภาคการเกษตรกำลังจะวิวัฒน์หรือ Tranform ไปไกลกว่านิยามของเกษตรกรรมที่พวกเรารู้จักและคุ้นเคยมา… ยิ่งแนวโน้มเรื่องอาหาร โดยเฉพาะมุมมองที่มีต่อโปรตีนจากเนื้อสัตว์เปลี่ยนไปจากเดิมด้วยแล้ว… เกษตรกรรมคงไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป
ประเด็นก็คือ… เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเปลี่ยนไปทางไหน? เปลี่ยนไปแค่ไหน? และเปลี่ยนด้วยองค์ประกอบและที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง?
สองสามสัปดาห์ก่อนผมสืบค้นหาตัวเลขการเติบโตของธุรกิจพืชอาหารเกรดพรีเมี่ยม… ซึ่งส่วนใหญ่โฟกัสอยู่ที่ผักผลไม้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตหลักๆ และผมโชคดีได้มีโอกาสพูดคุยกับ Supplyer ท่านหนึ่งด้วยหัวข้อสนทนาเรื่องอยากทำเกษตรอินทรีย์ส่งเข้า Supermarket บ้างต้องทำอะไรยังไง?
ผมก็ได้ข้อมูลเรื่องมาตรฐานและเอกสารรับรองต่างๆ มากมายที่ภาคเกษตรจะต้องขวานขวาย ไม่ได้ด้อยกว่าภาคอุตสากรรมเลยครับ…
ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าเพื่อจะชี้ว่า… ที่ดินเปล่าจำนวนมาก… มีแนวโน้มที่จะมองหาโมเดลการเกษตรเพื่อใช้เลี่ยงภาษีที่ดินอัตราใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน… และถ้าท่านสนใจเรื่องผลิตอาหารพืชผัก เรื่องหาที่ดินซักแปลงท่านข้ามไปได้เลยเพราะผมเชื่อว่า จะมีที่ดินให้เช่าทำการเกษตรมากมายภายในปีสองปีนี้… แต่ที่ท่านต้องศึกษาเพิ่มเติมอย่างมากคือ การหาการรับรองบนมาตรฐานต่างๆ ที่ตลาดต้องใช้เพื่อเอาผลผลิตของท่านเข้าตลาดได้อย่างราบรื่น…
โอกาสหน้าผมจะเอาข้อมูลมาตรฐานและใบรับรองต่างๆ มาบันทึกไว้แบ่งปันอีกทีครับ…